คำแนะนำหนึ่งในแง่การดูแลสุขภาพที่แพทย์มักให้คำปรึกษากันคือ ‘ให้ไปออกกำลังกาย’ ซึ่งแม้จะเป็นประโยคที่พูดได้ง่าย แต่ปฏิบัติจริงกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดจำเพาะต่างๆแตกต่างจากคนทั่วไป หมอจะพาไปดูกันว่าจริงๆแล้วในทางการแพทย์ การออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมากที่สุด
ไข้หวัดทั่วไป เป็นการติดเชื้อไวรัส ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหล มีไข้ต่ำ ส่วนไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ
คุณสมบัติไม่ซับซ้อน ได้ทำงานจริง ได้เงินเดือนสูงถึง 270,000 เยนต่อเดือน (~60,000+ บาท) พร้อมสวัสดิการดีเยี่ยม!
โรงเรียนพรการุญบริบาล ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมโครงการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุและปฏิบัติการกู้ชีพ CPR ครั้งที่ 4 เพื่อเสริมทักษะความรู้และความมั่นใจในการดูแลผู้สูงอายุและการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 - 16.00น. ทางโรงเรียนพรการุญบริบาล ได้มีการจัดอบรมเปิดสอนปฏิบัติการกู้ชีพ CPR โดย อ.สุรศักดิ์ สุดเสน่ห์ (หัวหน้าหน่วยกู้ชีพ ประจำโรงพยาบาลเทศบาลนครอุดรธานี)
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นายไพบูลย์ พลเมืองศรี อาจารย์แนะแนวโรงเรียนพรการุญบริบาล ได้ทำการลงพื้นที่ 3 อำเภอ ในเขตจังหวัดอุดรธานี ได้แก่ อ.เมืองอุดรธานี อ.ประจักษ์ศิลปาคมและอ.กู่แก้ว
ในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 นายไพบูลย์ พลเมืองศรี อาจารย์แนะแนวโรงเรียนพรการุญบริบาล ได้ทำการลงพื้นที่เพื่อขยายฐานการตลาดที่ชุมชนหมู่บ้าน ภายในอำเภอเพ็ญ โดยมีจุดประสงค์พบผู้นำหมู่บ้านเป็นหลัก
ในแต่ละวัน พี่หน่อยมีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราหรือสถานดูแลผู้ป่วยระยะยาว สิ่งที่ประทับใจตั้งแต่วันแรก คือความละเอียดอ่อนของระบบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการ การพูดจาที่สุภาพ และวิธีการทำงานที่มีแบบแผนชัดเจน ทุกอย่างถูกคิดมาเพื่อให้ “คน” ได้รับการดูแลอย่างมีคุณค่า ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือร่างกายเท่านั้น แต่รวมถึงจิตใจด้วย
จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่มีฝันใหญ่ ตอนเรียนที่พรการุญฯ ต๊อบก็เหมือนกับหลาย ๆ คนที่แค่รู้สึกว่าอยากมีอาชีพมั่นคง และช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย จนวันหนึ่งได้ยินรุ่นพี่ที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นมาแชร์ประสบการณ์ เลยเริ่มสนใจ และตั้งเป้าไว้เลยว่า "สักวันต้องได้ไปแบบนั้นบ้าง" จากวันนั้น ต๊อบเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น ค่อย ๆ ฝึกฝน ฝึกความอดทน และพัฒนาทักษะการดูแลผู้ป่วย จนในที่สุดก็ได้โอกาสเดินทางไปทำงานที่ญี่ปุ่นจริง ๆ
การทำงานเป็น ผู้ช่วยพยาบาลไทยในโรงพยาบาลญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายแต่ก็คุ้มค่ามาก ข้าวฟ่างได้เรียนรู้ทั้งวิชาชีพและวิธีการใช้ชีวิตในสังคมที่เป็นระเบียบ มีมาตรฐานสูง และให้ความสำคัญกับการดูแลผู้คนอย่างแท้จริง สำหรับใครที่สนใจมาทำงานสายนี้ อยากบอกเลยว่า "โอกาสมีเสมอสำหรับคนที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง"
การได้ใช้ชีวิตและทำงานในญี่ปุ่นไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ข้าวฟ่างได้พัฒนาทักษะในสายงานผู้ช่วยพยาบาล แต่ยังได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นในทุกๆ ด้านอย่างลึกซึ้ง ทั้งผ่านการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน และการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน วัฒนธรรมที่ละเอียดอ่อนและมีความลึกซึ้งนี้ได้สร้างบทเรียนและแรงบันดาลใจมากมายที่พี่ข้าวฟ่างอยากแบ่งปันค่ะ